เมนู

ไม่หลง ไม่พัวพัน มีปกติเห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภค
โภคทรัพย์นี้ ควรสรรเสริญโดย 4 สถาน ควรสรรเสริญโดย 4 สถาน
เป็นไฉน คือ สถานที่ 1 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า แสวงหาโภคทรัพย์
โดยชอบธรรม โดยความไม่ผลุนผลัน สถานที่ 2 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า
เลี้ยงตัวให้เป็นสุขสบาย สถานที่ 3 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า จำแนกทาน
ทำบุญ สถานที่ 4 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า เป็นคนไม่ละโมภ ไม่หลง
ไม่พัวพัน มีปรกติเห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์
ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้บริโภคกามเช่นนี้ ควรสรรเสริญโดย 4 สถาน
เหล่านี้.

ว่าด้วยผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมอง 3 จำพวก



[644] ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้มีตบะ ทรงชีพอยู่อย่าง
เศร้าหมอง 3 จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก 3 จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคล
ผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมองบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีศรัทธาออกบวช
เป็นบรรพชิตด้วยคิดว่า ไฉนหนอ เราพึงบรรลุกุศลธรรม พึงทำให้แจ้ง
ซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศนะ วิเศษชั้นเยี่ยม อย่างบริบูรณ์ ดังนี้
เขาย่อมทำตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย แต่ก็ไม่บรรลุกุศลธรรม ทำให้
แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศนะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ไม่ได้
1 ดูก่อนนายคามณีก็บุคคลผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมองบางคนในโลก
นี้ เป็นผู้มีศรัทธา ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยคิดว่า ไฉนหนอ เราพึง
บรรลุกุศลธรรม พึงทำให้แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรม ที่เป็นญาณทัศนะวิเศษ

ชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ ดังนี้ เขาย่อมทำตัวให้ร้อนรนกระวนกระวายบรรลุ
กุศลธรรมอย่างเดียว แต่กระทำให้แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศ-
นะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ไม่ได้ 1 ดูก่อนนายคามณี ก็บุคคลผู้มีตบะ
ทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมองบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีศรัทธา ออกบวชเป็น
บรรพชิตด้วยคิดว่า ไฉนหนอ เราพึงบรรลุกุศลธรรม พึงทำให้แจ้ง
ซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศนะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ ดังนี้
เขาย่อมทำตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย ได้บรรลุกุศลธรรม และทำไห้แจ้ง
ซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศนะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ 1.
[645] ดูก่อนนายคามณี ในบรรดาบุคคลผู้มีตบะทรงชีพอยู่
อย่างเศร้าหมอง 3 จำพวกนั้น ผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมอง ที่ทำตัว
ให้ร้อนรนกระวนกระวาย ไม่ได้บรรลุกุศลธรรม ทำให้แจ้งซึ่งอุตตริมนุ-
สสธรรมที่เป็นญาณทัศนะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ไม่ได้นี้ พึงถูกติเตียน
โดย 3 สถาน พึงถูกติเตียนโดย 3 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1 พึงถูก
ติเตียนดังนี้ว่า ทำตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย สถานที่ 2 พึงถูกติเตียน
ดังนี้ว่า ไม่ได้บรรลุกุศลธรรม สถานที่ 3 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ทำให้
แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรม ที่เป็นญาณทัศนะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ไม่
ได้ดูก่อนนายคามณีบุคคลผู้มีตบะทรงชีพอย่างเศร้าหมองนี้ พึงถูกติเตียน
โดย 3 สถานเหล่านี้.
[646] ดูก่อนนายคามณี ในบรรดาบุคคลผู้มีตบะทรงชีพอยู่
อย่างเศร้าหมอง 3 จำพวกนั้น ผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมอง ที่ทำ
ตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย ได้บรรลุกุศลธรรมเหล่านั้น แต่ทำให้แจ้ง

ซึ่งอุตตริมนุสสธรรมชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ไม่ได้นี้พึงถูกติเตียนโดย 2 สถาน
ควรสรรเสริญโดยสถานเดียว พึงถูกติเตียนโดย 2 สถานเป็นไฉน คือ
สถานที่ 1 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ทำตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย สถาน
ที่ 2 พึงถูกติเตียนดังนี้ว่า ทำให้แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศ-
นะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์ไม่ได้ ควรสรรเสริญโดยสถานเดียวเป็นไฉน
คือ ควรสรรเสริญโดยสถานเดียวดังนี้ว่า ได้บรรลุกุศลธรรม ดูก่อนนาย
คามณี บุคคลผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมองเช่นนี้ พึงถูกติเตียนโดย
2 สถาน ควรสรรเสริญโดยสถานเดียวนี้.
[647] ดูก่อนนายคามณี ในบรรดาบุคคลผู้มีตบะทรงชีพอยู่
อย่างเศร้าหมอง 3 จำพวกนั้น ผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมอง ที่ทำ
ตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย ได้บรรลุกุศลธรรม และทำให้แจ้งซึ่งอุตต-
ริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศนะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์นี้ พึงถูกติเตียน
โดยสถานเดียว ควรสรรเสริญโดย 2 สถาน พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียว
เป็นไฉน คือ พึงถูกติเตียนโดยสถานเดียวดังนี้ว่า ทำตัวให้ร้อนรนกระวน
กระวาย ควรสรรเสริญโดย 2 สถานเป็นไฉน คือ สถานที่ 1 ควร
สรรเสริญดังนี้ว่า ได้บรรลุกุศลธรรม สถานที่ 2 ควรสรรเสริญดังนี้ว่า
ทำให้แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรมที่เป็นญาณทัศนะวิเศษชั้นเยี่ยมอย่างบริบูรณ์
ได้ ดูก่อนนายคามณี บุคคลผู้มีตบะทรงชีพอยู่อย่างเศร้าหมองเช่นนี้ พึง
ถูกติเตียนโดยสถานเดียว ควรสรรเสริญโดย 2 สถานเหล่านั้น.

ว่าด้วยธรรม 3 อย่างอันบุคคลพึงเห็นเอง



[648] ดูก่อนนายคามณี ธรรม 3 อย่างนี้ เป็นของอันบุคคล
พึงเห็นเอง หาความทรุดโทรมมิได้ ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู
ควรน้อมเข้ามาในตน อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตน ธรรม 3 อย่าง
เป็นไฉน คือ การที่บุคคลเป็นผู้กำหนัดตั้งใจที่จะเบียดเบียนตนเองบ้าง
ตั้งใจที่จะเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง ตั้งใจที่จะเบียดเบียนทั้งตนเองทั้งผู้อื่นบ้าง
เพราะราคะเป็นเหตุ เมื่อละราคะได้แล้ว ย่อมไม่ตั้งใจที่จะเบียดเบียนตน
เองบ้าง ย่อมไม่ตั้งใจที่จะเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง ย่อมไม่ตั้งใจที่จะเบียดเบียน
ทั้งตนเองทั้งผู้อื่นบ้าง นี้เป็นธรรมอันบุคคลพึงเห็นเอง หาความทรุดโทรม
มิได้ ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามาในตน อัน-
วิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตน 1
การที่บุคคลผู้ถูกโทสะประทุษร้ายแล้ว ตั้งใจที่จะเบียดเบียนตนเอง
บ้าง ตั้งใจที่จะเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง ตั้งใจที่จะเบียดเบียนทั้งตนเองทั้งผู้อื่น
บ้าง เพราะโทสะเป็นเหตุ เมื่อละโทสะได้แล้ว ย่อมไม่ตั้งใจที่จะเบียดเบียน
ตนเองบ้าง ย่อมไม่ตั้งใจที่จะเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง ย่อมไม่ตั้งใจที่จะเบียด
เบียนทั้งตนเองทั้งผู้อื่นบ้าง นี้เป็นธรรมอันบุคคลพึงเห็นเอง หาความ
ทรุดโทรมมิได้ ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา
ในตน อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตน 1